ตัวละครที่ออกแบบมาอย่างซับซ้อน และถูกตีความจนนักวิจารณ์หลายคนเป็นกังวล
จากเนื้อเรื่องที่อ้างอิงความไร้ประสิทธิภาพของกฎหมาย ความเหลื่อมล้ำในสังคม และการทุจริตคอรัปชั่นใน 1980s จนในขณะนี้แม้จะผ่านมาหลายสิบปีแต่สังคมที่เรากำลังเผชิญอยู่กลับไม่ต่างจากเรื่องราวในอดีต
“ฉันเคยคิดว่าชีวิตของฉันเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่ามันเป็นเรื่องตลก” คำพูดของ Joker บอกเรื่องราวของความบีบคั้นและต้นตอของความซับซ้อนในตัวละครนี้ได้ดี และการสร้างตัวละครสำคัญอย่าง Joker ก็ผ่านการออกแบบมาอย่างดีไม่แพ้กัน
การออกแบบการสื่อสารความจริง
ภาพยนตร์หลายเรื่องในช่วง 3-4 ปีนี้ถูกออกแบบให้แสดงมิติของตัวละครได้มากอย่างที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นมากนักในอดีต ตัวละครที่เคยถูกมองว่าเป็น ‘ตัวร้าย’ ถูกตีแผ่เรื่องราวเบื้องหลังที่แสดงให้เห็นว่าความร้ายกาจที่ว่านั้นไม่ได้เป็นมาแต่เกิด แต่มีที่มาจากสังคมที่เสื่อมโทรมและขาดการดูแลจากคนรอบข้าง
Joker ในปี 2019 ก็เช่นกัน ได้แสดง ‘ความเป็นมนุษย์’ ที่มีหลากหลายแง่มุม แสดงอาการที่สอดคล้องกับการแพทย์ และสื่อสารเรื่องราวทางสังคม อย่างตัวละคร Arthur Fleck ซึ่งมีลักษณะคล้ายภาวะซึมเศร้า (depression) และแสดงอาการ Psudobulbar Affect (PBA) ซึ่งเป็นการบาดเจ็บทางสมองที่ทำให้เปล่งเสียงหัวเราะอย่างควบคุมตนเองไม่ได้ และจบลงด้วยการร้องไห้ที่ควบคุมไม่ได้เช่นเดียวกัน
การสื่อสารเรื่องราวของ Joker อาจทำให้เราเข้าใจคนที่มักถูกมองข้ามในสังคมมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่ถูกมองว่า ‘ผิดแผกจากคนทั่วไป’ (involuntary celibate หรือ incel โดยเฉพาะกลุ่มที่ถูกเปรียบเป็นตัวตลกหรือ clowncel) แต่นักวิจารณ์ก็แสดงความกังวลว่าจะเป็นการหนุนความชอบธรรมให้แก่คนที่ก้าวร้าว อย่างที่เคยเกิดขึ้นเมื่อมีการฉายภาพยนตร์เรื่อง Batman: The Dark Knight Rises ในปี 2012 ซึ่งกระตุ้นให้เกิดเหตุการณ์กราดยิงที่โรงหนัง Aurora ใน Colorado จนมีผู้เสียชีวิต 12 ราย และบาดเจ็บ 70 ราย แต่ไม่ว่าสุดท้ายแล้ว ‘Joker’ จะทำให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นอีกหรือไม่ การตีแผ่เรื่องราวความบิดเบี้ยวของสังคมผ่านภาพยนตร์ก็ทำให้เราได้เข้าใจความเป็นจริงของสังคมมากขึ้น มองเห็นการเลื่อนไหลของความขาว-ดำ-เทาในตัวคนได้อย่างชัดเจน และอาจทำให้เราได้ให้ความเข้าใจแก่ ‘Joker’ ด้วยการสวมกอดเขาอย่างอบอุ่นจริงๆ
SolidSprout
ออกแบบเพื่อสร้างสรรค์สังคม
コメント